ทำไมมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า จึงเหมาะเป็นทางเลือกของการเดินทาง สำหรับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Travel)?

 

ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า ความต้องการในการใช้พลังงานพุ่งสูงขึ้นจากราคาที่สูงขึ้น มีความผันผวนและแปรเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา สวนทางกับแหล่งพลังงานหลักอย่าง “น้ำมัน” ที่ใช้แล้วหมดไปเริ่มมีสภาวะที่ลดน้อยถอยลงเรื่อย ๆ  อีกทั้งการใช้น้ำมันส่งผลให้โลกเราเผชิญกับวิกฤตโลกร้อนมานานนับทศวรรษที่ผ่านมา

.

ดังนั้นจึงเป็นเหตุที่ทำให้ “พลังงานสะอาด” เข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนให้คนในโลกส่วนใหญ่เริ่มหันมาสนใจการใช้ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีนี้ยานพาหนะอย่างรถยนต์ไฟฟ้าและ “มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า” ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะนอกจากจะเป็นทางเลือกที่ประหยัดค่าใช้จ่ายในกระเป๋าแล้ว ยังช่วยลดมลพิษทั้งในด้านเสียงและอากาศได้อีกต่างหาก แถมประสิทธิภาพก็แทบไม่ต่างจากรถมอเตอร์ไซค์สันดาปแล้วอีกด้วย

.

จึงเป็นเหตุผลให้หลากหลายหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชน เริ่มหันมาเลือกใช้รถ “มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า” เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างนโยบายสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ รวมไปถึงการสังคมสีเขียวตามเทรนด์การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคธุรกิจท่องเที่ยวที่มีการหันมาใช้ “มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า” สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้เช่าในราคาที่ถูก

.

เพราะรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แม้จะมีราคาที่สูงหรืออาจจะดูแพงสวนทางกับระยะทางที่ทำได้ พอคำนวณต้นทุนมีความคุ้มค่ามากกว่ารถที่ใช้น้ำมัน เพราะพลังงานจากน้ำมันมีความแปรผันในเรื่องของราคาอยู่ตลอด เลยทำให้ต้นทุนส่วนนี้ลดลง และยิ่งการเลือกใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีการประกอบที่ดี ใช้วัสดุได้มาตรฐานและออกแบบเพื่อรองรับการขับขี่โดยเฉพาะ ก็จะยิ่งทำให้เป็นตัวเลือกที่จะนำต่อยอดสำหรับธุรกิจให้เช่ารถได้ในระยะยาว ช่วยลดต้นทุนการบำรุงรักษาตลอด

.

สำหรับเมืองท่องเที่ยวใหญ่ ๆ ในหลากหลายมุมของโลก รัฐบาลท้องถิ่นหรือองค์กรส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ เริ่มให้นักท่องเที่ยวได้เช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแล้ว ด้วยรูปทรงที่กะทัดรัดและสามารถพาไปไหนได้ทุกที่จึงเป็นทางเลือกแรก ๆ ที่นักท่องเที่ยวตัดสินใจใช้ เช่น ในภูมิภาค Languedoc ของฝรั่งเศส นักท่องเที่ยวสามารถทัวร์สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าหรือมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบบ Off-Road ผ่านไร่องุ่นริมคลอง Canal du Midi หรือ ในไต้หวันที่มีการตั้งศูนย์บริการตู้สลับแบตเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่เช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสำหรับเที่ยวรอบเกาะใต้หวัน เป็นต้น

.

สิ่งเหล่านี้ก็เป็นการสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เข้ากับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่ผู้คนบนโลกเริ่มหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันมากขึ้น ความต้องการใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเริ่มพุ่งสูงขึ้น ตลาดนี้ยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสสำคัญในการต่อยอดธุรกิจสีเขียวหรือธุรกิจท่องเที่ยวที่สร้างความตระหนักรู้ให้กับผู้คนให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดี และเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้เป้าหมายของการลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงหรือการลดก๊าซเรือนกระจกก็จะสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายกันไว้ภายในปี 2050