แนะนำวิธีการใช้งาน NIU Smart Electric Scooter
คำแนะนำในการใช้งานมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า “NIU” Smart Electric Scooter
คำแนะนำเบื้องต้นสำหรับผู้เริ่มใช้งานมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า “NIU” ทุกรุ่น เราได้รวบรวมข้อมูลสำหรับข้อควรรู้ในการใช้งานเพื่อเสริมประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุดและดูแลรักษาเพื่อเพิ่มอายุการใช้งานให้นานขึ้น รวมไปถึงข้อสังเกตสำหรับการขับขี่ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า NIU
ไม่ควรตั้งขาตั้งเดี่ยวสำหรับการนั่ง
บริเวณขาตั้งเดี่ยวมีเซนเซอร์ที่คอยตรวจจับการทำงานของรถ หากรถรองรับน้ำหนักที่มากเกินไปอาจจะทำให้เซ็นเซอร์บริเวณขาตั้งชำรุดได้ง่าย แนะนำให้ตั้งขาตั้งคู่เพื่อความมั่นคงและการรองรับน้ำหนักที่มากขึ้น
ยาง
สำหรับตัวยางที่ติดมากับรถมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 2 ปี หรือ 15,000 กม. ถ้าไม่ได้ใช้งานหนัก ควรหมั่นเช็กอาการเสื่อมของยางทุกครั้ง เมื่อมีการเช็กระยะและหากต้องการเปลี่ยนยางแนะนำให้เปลี่ยนกับศูนย์บริการ NIU เนื่องจากล้อหลังมีมอเตอร์ติดอยู่ หากมีการเปลี่ยนยางที่ผิดพลาดอาจจะทำให้มอเตอร์เกิดความเสียหายได้
การเผชิญสภาพถนนที่มีน้ำท่วมหรือน้ำขัง
โดยปกติมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า NIU สามารถลุยน้ำได้ประมาณครึ่งล้อหากไม่สามารถหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีน้ำท่วมหรือน้ำขังได้ควรขับผ่านน้ำไปเลยและไม่ควรจอดแช่
Eco Mode
สำหรับการใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า NIU เมื่อใช้งานแบตเตอรี่จนเหลือ 15% ระบบของรถจะถูกปรับให้อยู่ใน Eco Mode หรือโหมดประหยัดพลังงานทันทีเพื่อรักษาระดับแบตเตอรี่และประหยัดพลังงานทำให้วิ่งได้ในระยะทางที่มากขึ้น
ก่อนเริ่มใช้งาน
ควรปรับกระจกข้างรถให้เหมาะสมกับระดับสายตา เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
ระบบความปลอดภัยของรถ
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า NIU มีระบบเซ็นเซอร์และสัญญาณกันขโมยรอบคัน โดยหากรถมีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติจะมีเสียงเตือนและส่งข้อความเตือนมาที่มือถือของผู้ใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น NIU
การใช้งานแบตเตอรี่
-
- อุณหภูมิแบตเตอรี่ NIU ที่เหมาะสมในการใช้งานอยู่ที่ ต่ำสุดอยู่ที่ -10 องศาเซลเซียส และสูงสุดที่ 45 องศาเซลเซียส
- หลีกเลี่ยงแบตเตอรี่จากการโดนน้ำหรือของเหลวที่มีฤทธิ์กัดกร่อน
- ควรเก็บจากแหล่งความร้อน ประกายไฟต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดการระเบิดได้
- กรุณาเก็บชิ้นส่วนโลหะให้ห่างจากแบตเตอรี่
- กรณีที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือมีความร้อนที่ผิดปกติจากแบตเตอรี่ ควรหยุดการใช้งานแบตเตอรี่และติดต่อศูนย์บริการทันที
- ผู้ใช้งาน ไม่ควรซ่อมแบตเตอรี่เอง เนื่องจากแบตเตอรี่ NIU เป็นแบตเตอรี่ที่มีความเฉพาะตัว การรื้อแบตเตอรี่เองอาจจะทำให้เกิดการรั่วซึม ความร้อนสูงกว่าปกติเกิดควันไฟหรือระเบิดได้ ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญของทางศูนย์บริการเป็นผู้ซ่อม
- การชาร์จแบตเตอรี่ควรชาร์จที่อุณหภูมิที่ 0 องศาเซลเซียส ถึง 35 องศาเซลเซียส
- ไม่ควรชาร์จนานเกิน 24 ชม. เพราะการชาร์จนานเกินไปจะทำให้อายุแบตเตอรี่สั้นลง
- ไม่ควรปล่อยแบตเตอรี่หมดแล้วชาร์จใหม่ เพราะอาจจะเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว
- สำหรับ Charger ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจทำให้เกิดการรั่วซึมของกระแสไฟและเป็นต้นตอของไฟฟ้าลัดวงจรได้
- ห้ามใช้ Charger ที่แรงดันไฟแตกต่างกันและควรชาร์จในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น ที่โล่งและพื้นที่อากาศถ่ายเทสะดวก อย่าชาร์จในพื้นที่ปิดหรือภายใต้อุณหภูมิสูง
- อย่าใส่ Adapter เข้าไปท้ายหรือกล่องหลังรถ ขณะที่กำลังชาร์จตัวแบตเตอรี่
- ขณะเวลาที่ชาร์จควรต่อแบตเตอรี่กับ Charger ก่อนต่อกับ เต้ารับไฟบ้าน
- เมื่อชาร์จไฟเต็ม 100% แล้วค่อยถอดปลั๊กจากเต้ารับไฟก่อน ถอดตัว Charger ออกจากแบตเตอรี่
- ตัวชาร์จเมื่อมีไฟสีเขียวสว่างขึ้น เวลานั้นไฟฟ้าจะตัดการเชื่อมต่อทันที
- ถ้าแบตเตอรี่ที่ใช้อยู่ไม่สามารถชาร์จให้เต็มได้ภายใน 12 ชม. กรุณาหยุดชาร์จและติดต่อศูนย์บริการ
- หากต้องการยื่นอายุการใช้งานแบตเตอรี่ควรรักษาเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ไว้ระหว่าง 20% – 80%
- การจัดเก็บแบตเตอรี่โปรดเก็บไว้ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 40 องศาเซลเซียสเพื่อป้องกันการสูญเสียการเก็บประจุแบบถาวร
- แบตเตอรี่จะเสียประจุมากขึ้นในสภาวะอุณหภูมิต่ำประจุ
ในการใช้งานที่ -10 องศา คือ 70%
0 องศา คือ 85%
25 องศา คือ 100% - สำหรับการเก็บประจุที่ดีที่สุดอยู่ที่ 50% การเก็บรักษาแบตเตอรี่ที่มีน้อยกว่า 10% และมากกว่า 90% เป็นเวลานานจะทำให้แบตเตอรี่เสียการเก็บประจุแบบถาวร
- หากไม่ได้มีการใช้รถนานเกิน 1 สัปดาห์จะต้องนำแบตเตอรี่ออกจากตัวรถและควรเก็บ 0 – 20 องศาเซลเซียส ที่ระดับประจุ 30%-70%
- ระมัดระวังการทำแบตเตอรี่หล่นหรือตกเพราะอาจจะทำให้แบตเตอรี่เกิดความเสียหายภายในได้ อาจส่งผลให้เกิดการรั่วซึมของตัวแบตเตอรี่ นำไปสู่การระเบิดหรือไฟไหม้ได้
ก่อนเริ่มการขับขี่ ควรตรวจสอบรายละเอียดดังนี้
- แฮนด์รถ : มั่นคง ยืดหยุ่นในการควบคุม แกนไม่โยกหรือหลวม
- เบรก : ระดับคันเบรกมีระยะระหว่าง 5-9 มิลลิเมตร
- ล้อ : แรงดันลมยาง ความลึกของดอกยาง ไม่มีรอยแตกหรือเปิดออก
- แบตเตอรี่ : เพียงพอสำหรับระยะทางที่ต้องการ
- แสงไฟ : ไฟสูง ไฟต่ำ ไฟเบรก ไฟเลี้ยว เป็นต้น
- แตร : มีเสียงดังสามารถใช้งานได้
สิ่งที่ควรและไม่ควรปฏิบัติขณะขับขี่
- ในการใช้เบรกตั้งรถให้ตรงก่อนเบรก ถ้าล้อถูกล็อกทำให้รถไม่สามารถขับได้ เป็นผลจากแรงเบรกที่มากเกินไป ให้คลายเบรกล้อจะหมุนอีกครั้ง เนื่องจากคันเร่งเป็นไฟฟ้าและคันเบรกจะมีเซนเซอร์อยู่ ถ้าเบรกจะไม่สามารถใช้คันเร่งได้
- การใช้เบรกหน้าหรือหลังเพียงอย่างเดียวเป็นอันตราย เพราะอาจเสียการควบคุมและทำให้การสึกหรอของผ้าเบรกเร็วขึ้น ส่งผลให้ระยะเบรกยาวขึ้น
- การล้างรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า NIU ควรหลีกเลี่ยงการใช้สายยางแรงดันสูง เพราะอาจทำให้เซนเซอร์ที่อยู่รอบคันเสียหาย หลังล้างเสร็จต้องเช็ดด้วยผ้าให้แห้งสนิท และลงน้ำยาเคลือบกันสนิมทุกครั้ง
- ควรเข้าเช็กระยะทุกครั้งที่ศูนย์บริการ NIU THAILAND
ข้อสังเกตเกี่ยวกับความปลอดภัย
การเก็บระยะสั้น
- เก็บรถไว้บนพื้นราบ มั่นคง และอากาศถ่ายเทสะดวก
- ชาร์จแบตเตอรี่ให้ถึง 50% ก่อนการเก็บเพื่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด
- หลีกเลี่ยงแสงแดดและฝน
การเก็บระยะยาว
- ควรชาร์จและคลายประจุ ทุก ๆ 2 เดือนต่อ 1 ครั้ง และชาร์จแบตเตอรี่ให้อยู่ที่ 50% ก่อจัดเก็บเพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่
- หลังจากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน ควรชาร์จแบตให้เต็ม 100% ก่อนใช้งาน
- โปรดนำแบตเตอรี่ออกจากตัวเมื่อไม่ได้ใช้เป็นเวลานาน
*รายงานความผิดปกติต่าง ๆ รวมถึง Error แนะนำให้อ่านรายละเอียดในคู่มือ
**การรับประกันตัวรถ 1 ปี แบตเตอรี่ 2 ปี โปรดอ่านคู่มืออย่างละเอียดก่อนใช้งาน เพื่อรักษาสิทธิ์การรับประกัน